
21 ต.ค. เมื่อ “เฟอร์ริกคลอไรด์” กลายเป็นหัวใจของอุตสาหกรรมสีเขียว
ในตอนนี้น่าจะพูดได้ว่าเราอยู่ในยุคที่ความยั่งยืนไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่มันคือมาตรฐาน โดยอุตสาหกรรมทั่วโลกกำลังเผชิญกับโจทย์ที่ท้าทาย ว่าจะทำอย่างไรให้กระบวนการผลิตเดินหน้าไปพร้อมกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม? วันนี้โรงงานที่ทันสมัยไม่ได้วัดความสำเร็จจากตัวเลขกำไรเพียงอย่างเดียว แต่ยังวัดจาก “ความสะอาดของกระบวนการผลิต” และ “คุณภาพของน้ำที่คืนสู่ธรรมชาติ” อีกด้วย
ภายใต้การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ มีสารประกอบเคมีชนิดหนึ่งที่หลายท่านอาจไม่รู้ถึงประโยชน์ที่ซ่อนอยู่ เพราะสารเคมีนี้มีบทบาทเป็นพระเอกเบื้องหลังระบบบำบัดน้ำเสียทั่วโลก นั่นคือ “เฟอร์ริกคลอไรด์ (Ferric Chloride Solution)” นั่นเอง น้ำยาเคมีสีน้ำตาลเข้มที่เข้ามาพลิกโฉมการจัดการน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพสูงสุด จนกลายเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมสีเขียวอย่างแท้จริง
อุตสาหกรรมยุคใหม่ ไม่ได้วัดแค่กำไร แต่วัดจากความรับผิดชอบต่อโลก
โลกหลังยุคโควิด 19 และภาวะโลกร้อน ได้ผลักดันให้แนวคิด “อุตสาหกรรมสีเขียว” (Green Industry) กลายเป็นหนึ่งในมาตรฐานสากลที่ทุกองค์กรต้องปฏิบัติตาม อาทิ การลดการปล่อยมลพิษ การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการรับรองความปลอดภัยทางสิ่งแวดล้อม คือสิ่งที่ผู้บริโภคและหน่วยงานกำกับดูแลให้ความสำคัญ
ในกระบวนการผลิตเกือบทุกประเภท โดยเฉพาะอุตสาหกรรมหนัก อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม หรือแม้แต่โรงงานผลิตอิเล็กทรอนิกส์ก็ตาม “น้ำเสีย” คือผลลัพธ์ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และหากน้ำเสียเหล่านี้ไม่ได้รับการบำบัดอย่างถูกวิธี สารเคมี สารแขวนลอย รวมถึงโลหะหนักที่ปนเปื้อนก็จะถูกปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ สร้างผลกระทบระยะยาวต่อระบบนิเวศ
นี่คือเหตุผลที่เฟอร์ริกคลอไรด์ (Ferric Chloride Solution) ได้รับความไว้วางใจให้เป็นองค์ประกอบหลักของระบบบำบัดน้ำเสีย เพราะคุณสมบัติทางเคมีของมันช่วยให้โรงงานต่างๆ สามารถปล่อยน้ำที่สะอาดขึ้นกลับคืนสู่ธรรมชาติได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน
Ferric Chloride คืออะไร และทำไมถึงสำคัญในระบบบำบัดน้ำ?
เฟอร์ริกคลอไรด์ (FeCl₃) เป็นสารเคมีที่จัดอยู่ในกลุ่มสารช่วยตกตะกอน (Coagulants) มีคุณสมบัติเด่นคือการสร้างปฏิกิริยาเคมีที่รวดเร็วและทรงพลังเมื่อถูกเติมลงในน้ำเสีย เมื่อน้ำเสียจากกระบวนการผลิตเข้าสู่ระบบบำบัด น้ำเสียเหล่านี้มักมีอนุภาคขนาดเล็กมาก (Colloidal Particles) หรือสารแขวนลอยที่กระจายตัวอยู่ และมีประจุไฟฟ้าลบ ทำให้พวกมันไม่รวมตัวกันและไม่สามารถตกตะกอนได้เองตามธรรมชาติ
บทบาทของเฟอร์ริกคลอไรด์ คือการปลดปล่อยไอออนเหล็ก (Fe³⁺) ที่มีประจุบวกสูงออกมา ไอออนเหล่านี้จะทำหน้าที่ “หักล้างประจุ” ของอนุภาคแขวนลอยที่เป็นลบ ทำให้อนุภาคเหล่านั้นสูญเสียแรงผลักและรวมตัวกันเป็นก้อนตะกอนขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “ฟล็อก (Floc)” จากนั้นก้อนตะกอนเหล่านี้ก็จะหนักพอที่จะจมลงสู่ก้นถัง ทำให้สามารถแยกของแข็งออกจากน้ำได้อย่างง่ายดายในขั้นตอนการตกตะกอน (Sedimentation)
ด้วยกลไกนี้ เฟอร์ริกคลอไรด์จึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการเตรียมน้ำเสียให้พร้อมสำหรับการบำบัดขั้นถัดไป เพราะสามารถกำจัดสารปนเปื้อนสำคัญได้เกือบทั้งหมด ซึ่งรวมถึงสารเหล่านี้
- สารแขวนลอย (Suspended Solids) ลดความขุ่นของน้ำ
- ฟอสฟอรัส (Phosphorus) ซึ่งเป็นสารอาหารที่ก่อให้เกิดสาหร่ายในแหล่งน้ำธรรมชาติ
- โลหะหนัก (Heavy Metals) เช่น สารปรอท ตะกั่ว และแคดเมียม ที่เป็นพิษร้ายแรงต่อสิ่งมีชีวิต
ลดมลพิษและเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต
ประสิทธิภาพของเฟอร์ริกคลอไรด์ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การตกตะกอนเท่านั้น แต่ยังขยายไปถึงการเพิ่มคุณภาพและความยั่งยืนในกระบวนการทำงานของโรงงานอีกหลายด้าน ดังนี้
∘ ควบคุมกลิ่นเหม็น
เฟอร์ริกคลอไรด์มีความสามารถในการทำปฏิกิริยากับไฮโดรเจนซัลไฟด์ (Hydrogen Sulfide, H2S) ซึ่งเป็นก๊าซที่มีกลิ่นไข่เน่าและเป็นพิษ โดยเปลี่ยน H2S ให้กลายเป็นสารประกอบเหล็กซัลไฟด์ที่ไม่ละลายน้ำ ซึ่งจะช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในระบบบำบัดน้ำเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ
∘ ลดสารอินทรีย์และความต้องการออกซิเจนทางเคมี (COD)
การกำจัดสารแขวนลอยและอินทรียวัตถุในน้ำตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดภาระการบำบัดทางชีวภาพ (Biological Treatment) ในขั้นตอนถัดไป ทำให้กระบวนการบำบัดรวมทั้งระบบใช้พลังงานลดลง และได้น้ำทิ้งที่มีค่า COD (Chemical Oxygen Demand) ต่ำลงตามมาตรฐานที่กำหนด
∘ ประสิทธิภาพในช่วงที่มีอุณหภูมิต่ำ
เฟอร์ริกคลอไรด์ทำงานได้ดีในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย รวมถึงในช่วงที่มีอุณหภูมิต่ำ ซึ่งแตกต่างจากสารช่วยตกตะกอนบางชนิดที่ประสิทธิภาพอาจลดลงเมื่ออุณหภูมิน้ำลดลง ทำให้สามารถรักษามาตรฐานการบำบัดได้ตลอดทั้งปี
ก้าวสู่ความยั่งยืน เมื่อเคมีช่วยดูแลโลก
ในอุตสาหกรรมสีเขียว การลดปริมาณของเสียและส่งเสริมการหมุนเวียนทรัพยากรเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง และเฟอร์ริกคลอไรด์เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แนวคิดนี้เป็นจริงได้ภายใต้หลักการ Green Chemistry
สิ่งที่น่าสนใจคือ ตะกอน (Sludge) ที่เกิดจากการใช้เฟอร์ริกคลอไรด์ในการบำบัดน้ำเสีย ตะกอนเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงของเสียที่ต้องกำจัดเท่านั้น แต่หากเป็นตะกอนจากโรงงานบางประเภท เช่น อุตสาหกรรมอาหาร หรือการผลิตที่สะอาด ตะกอนที่เกิดขึ้นอาจสามารถนำไปผ่านกระบวนการลดความชื้นและปรับปรุงคุณภาพเพื่อใช้เป็นสารปรับปรุงดิน (Soil Conditioner) หรือเป็นวัสดุสำหรับอุตสาหกรรมก่อสร้างได้บางส่วน
นอกจากนี้ การใช้เฟอร์ริกคลอไรด์ที่มีประสิทธิภาพสูงยังหมายถึงการใช้ปริมาณสารเคมีโดยรวมที่ลดลง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของอุตสาหกรรมยุคใหม่ที่ต้องการผลลัพธ์สูงสุดจากการใช้ทรัพยากรที่น้อยที่สุด และเป็นการลดต้นทุนในการกำจัดกากตะกอนในระยะยาวอีกด้วย
สรุป
ความยั่งยืนในปัจจุบันไม่ได้หมายถึงการปฏิเสธการใช้สารเคมี แต่หมายถึง “การใช้สารเคมีอย่างชาญฉลาด ถูกจุด ถูกวิธี และถูกหลักสิ่งแวดล้อม” มากกว่า เฟอร์ริกคลอไรด์ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถบรรลุเป้าหมายด้านความสะอาดและรักษ์โลกได้จริง เพราะมันช่วยสร้างสมดุลระหว่างความจำเป็นทางเทคโนโลยีกับการรักษาสมบัติทางธรรมชาติที่สำคัญที่สุดของเรา นั่นคือ “น้ำ” นั่นเอง
การเลือกใช้เฟอร์ริกคลอไรด์ที่มีคุณภาพสูงและได้มาตรฐานจึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญของทุกโรงงานที่มุ่งมั่นจะเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมสีเขียวและสร้างสรรค์อนาคตที่สะอาดให้กับสังคม
ผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมสีเขียว
บริษัท เอเชี่ยน เคมิคัล จำกัด (ACC) คือผู้นำด้านการผลิตและจัดจำหน่ายสารเคมีอุตสาหกรรมที่เข้าใจถึงความสำคัญของระบบบำบัดน้ำเสียและความยั่งยืน เรามุ่งมั่นผลิตเฟอร์ริกคลอไรด์ (Ferric Chloride Solution) และสารประกอบทองแดง คอปเปอร์ซัลเฟต (Copper Sulphate) คุณภาพสูงที่ผ่านการรับรองระบบมาตรฐานระดับสากล อาทิ ISO 9001, 14001, 45001, ISO/IEC 17025, FAMI-QS และ HACCP เพื่อเป็นพันธมิตรที่น่าเชื่อถือในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมของคุณสู่ความสำเร็จที่สะอาดและยั่งยืน
📞 Tel: +66 (38) 570 150-2 Ext. 106, 107 หรือ +66 (81) 8337 043
📩 E-mail: [email protected]
🌐 Website: https://acc1976.com/th/
🏢 บริษัท เอเชี่ยน เคมิคัล จำกัด
85/1 หมู่ 5 นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ ถ.บางนา-ตราด กม.36 ต.บางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา 24130
No Comments